เปิดคำพิพากษาศาลยกฟ้อง สุเทพ เทือกสุบรรณ ฉบับเต็มสล็อตแตกง่าย คดีทุจริตสร้างโรงพัก 396 แห่ง อดีตนักการเมืองที่เคยห่มผ้าเหลืองลั่นไม่ต้องเป็นแพะแล้วหลังพ้นมลทิน ภายหลังจากคดีที่ ป.ป.ช. เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรีและพวก เป็นจำเลยที่ 1-6 กรณีร่วมฮั้วประมูลโครงการสร้างโรงพักทดเเทนโครงการก่อสร้างอาคารที่พัก (แฟลตตำรวจ)
โดยล่าสุด คดีมหากาพย์ของนายสุเทพก็สอิ้นสุดลงวันนี้ (20 ก.ย.65)
หลังจาก ศาลอ่านคำพิพากษา “ศาลยกฟ้อง” “สุเทพ เทือกสุบรรณ” จำเลยและมีการแจงยาว 5 หน้ากระดาษ 4 สี่ โดยมีรายละเอยีด ดังต่อไปนี้ ข่าวแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง Criminal Case Division For Persons Holding Political Positions โดยงานประชาสัมพันธ์ แผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง ฉบับที่ ๑๓ วันอังคารที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๖๕
วันนี้ เวลา 9.30 น. ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง อ่านคําพิพากษาคดีหมายเลขดําที่ อม.232564 ระหว่าง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต แห่งชาติ โจทก์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ กับพวก รวม 5 คน จําเลย
ในความผิดต่อตําแหน่งหน้าที่ราชการ และความผิดต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ โดยโจทก์ฟ้องสรุป ได้ว่า จําเลยที่ 2 ขออนุมัติหลักการในการดําเนินการประกวดราคาจัดจ้างโครงการก่อสร้างอาคาร ที่ทําการสถานีตํารวจ (ทดแทน) จํานวน 396 หลัง
และโครงการก่อสร้างอาคารที่พักอาศัยข้าราชการตํารวจ ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยเสนอให้สํานักงานตํารวจแห่งชาติยกเลิกแนวทางในการจัดจ้างโครงการ ก่อสร้างอาคารที่ทําการสถานีตํารวจ (ทดแทน) จํานวน 396 หลัง ด้วยวิธีการจัดจ้างโดยส่วนกลาง
โดยแยก การเสนอราคาเป็นรายภาค (ภาค 1 – 4) และอนุมัติให้สํานักงานตํารวจแห่งชาติ ดําเนินการประกาศ ประกวดราคาจัดจ้างก่อสร้างอาคารที่ทําการสถานีตํารวจ (ทดแทน) จํานวน 396 หลัง ภายในวงเงิน 6,248,000,000 บาท ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์
โดยกองโยธาธิการ สํานักงานส่งกําลังบํารุง สํานักงาน ตํารวจแห่งชาติ เป็นหน่วยงานจัดจ้างก่อสร้างทุกอาคารรวมกันในครั้งเดียว โดยไม่ได้เสนอให้นายกรัฐมนตรี นําเสนอเรื่องดังกล่าวให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงการจัดจ้างก่อสร้างโครงการ จําเลยที่ 1 อนุมัติตามเสนอ ซึ่งการเสนอเปลี่ยนแปลงการจัดจ้างดังกล่าวจะมีผลกระทบต่อวงเงินงบประมาณ
ตามที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติไว้ กระทบต่อกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง ราคากลางที่กําหนดขึ้นหรืองบประมาณ ที่สูงขึ้นเป็นเงินจํานวน 5,388,000,000 บาท ซึ่งสูงกว่าราคากลางเดิมที่กําหนดไว้จํานวน 6,100,538,900 บาท
การกระทําของจําเลยที่ 1 และที่ 2 เป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยมิชอบ จําเลยที่ 3 และที่ 4 ในฐานะประธานคณะกรรมการประกวดราคา กับกรรมการและเลขานุการ มีหน้าที่ต้องตรวจสอบบัญชีแสดงปริมาณวัสดุและราคาในการก่อสร้างที่จําเลยที่ 5 โดยจําเลยที่ 6 ยื่น ว่าถูกต้องครบถ้วนและราคาที่เสนอมีความเหมาะสมหรือไม่
หากไม่ถูกต้องและครบถ้วนหรือไม่เหมาะสม ประการใด
จะต้องสั่งให้แก้ไขหรือเจรจาต่อรองราคาต่อไปตามเอกสารการประกวดราคาจ้าง แต่จําเลยที่ 3 และที่ 4 กลับร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือโดยทุจริต ไม่ตรวจสอบพิจารณา
แจ้งหรือนัดหมาย หรือนําเสนอคณะกรรมการประกวดราคาเพื่อพิจารณา ทั้งเป็นการมุ่งหมายมิให้มี การแข่งขันในการเสนอราคาอย่างเป็นธรรมเพื่อเอื้ออํานวยแก่จําเลยที่ ๕ โดยจําเลยที่ 5 ให้ได้รับการคัดเลือก ในการเสนอราคาและเป็นผู้มีสิทธิเข้าทําสัญญากับสํานักงานตํารวจแห่งชาติ และจําเลยที่ 5 โดยจําเลยที่ 5 มุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันเสนอราคาอย่างเป็นธรรมและเอื้อประโยชน์ในการคิดคํานวณส่วนต่างกรณีมีงานลด หรืองานเพิ่มจากการตอกเสาเข็มได้ครบจํานวนตามแบบของงานก่อสร้างทั้ง ๓๙๖ หลัง อันเป็นการช่วยเหลือ หรือให้ความสะดวกในการกระทําความผิดของจําเลยที่ 3 และที่ 4 ดังกล่าว
ขอให้ลงโทษจําเลยที่ 1 และที่ 2 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 จําเลยที่ 3 และที่ 4 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และมาตรา 157 พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 90 และมาตรา 12 จําเลยที่ 5 และที่ 6 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ประกอบ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงาน ของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 12 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 จําเลยทั้งหกให้การปฏิเสธ
ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง พิจารณาแล้ว เห็นว่า เมื่อพิจารณาพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. ๒๕๕๘ มาตรา 4 (1) และมาตรา 10 กับระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2544 ข้อ 13 ซึ่งเป็นการกําหนดหลักเกณฑ์การเสนอเรื่องให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา และอํานาจของคณะรัฐมนตรีในการ อนุมัติ ประกอบบันทึกของสํานักงานตํารวจแห่งชาติ ลงวันที่ 9 มกราคม 2552
ที่อ้างข้อเท็จจริงตามบันทึก สํานักงานตํารวจแห่งชาติ ลงวันที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๑ เพื่อเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรีขออนุมัติให้ นายกรัฐมนตรีเห็นชอบก่อนนําเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา สํานักงานตํารวจแห่งชาติได้กําหนดประเด็นที่ ประสงค์จะให้คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้สํานักงานตํารวจแห่งชาติดําเนินโครงการสถานีตํารวจเพื่อประชาชน (ทดแทน) โดยเป็นโครงการผูกพันงบประมาณ ๓ ปี ตั้งงบประมาณปี 2552 ถึง 2554 ซึ่งเป็นไปตาม พระราชกฤษฎีกาและระเบียบดังกล่าวสล็อตแตกง่าย